งานสงกรานต์นครพนม มีกิจกรรมบุญประเพณีเสริมสิริมงคลที่สำคัญ สำหรับชาวนครพนมและจากจังหวัดอื่นๆ นั่น คือ การสรงน้ำพระธาตุประจำวันเกิด 8 ธาตุ แห่งนครพนม
จัดโดย ททท.นครพนม วัดทั้ง 8 พระธาตุ 7 อำเภอ ของ จ.นครพนม ได้แก่
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม พระธาตุประจำวันอาทิตย์
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุเรณู อ.เรณูนคร พระธาตุประจำวันจันทร์
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุศรีคุณ อ.นาแก พระธาตุประจำวันอังคาร
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก พระธาตุประจำวันพุธ
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุมรุกขนคร อ.ธาตุพนม พระธาตุประจำวันพุธ
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์
- กิจกรรมสรงน้ำพระธาตุนคร อ.เมือง พระธาตุประจำวันเสาร์
พระธาตุพนม อ.ธาตุพนม พระธาตุประจำวันอาทิตย์
พระธาตุพนม ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้าตั้งตระหง่าน อยู่ริมฝั่งโขง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรดสัตว์น้อยโหญ่ ตามตํานานอุรังคธาตุกล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นําพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง ๕ เป็นประธาน ในการสร้างที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนมในปัจจุบัน
พุทธศาสนิกชนที่ได้มาเยี่ยมเยียนจากทั่วสารทิศทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง ได้สืบต่อความเชื่อกันมาจากบรรพบุรุษ ว่ากันว่าหากใครได้มา นมัสการพระธาตุครบ ๗ ครั้ง จะถือว่าเป็น “ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม จ ครั้ง ที่ถือเป็น อานิสงส์ผลบุญยิ่งนัก
พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีเกิดแห่งเดียวบนแผ่นดินที่ราบสูง และยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ เนื่องด้วยตามตำนานบริเวณที่ตั้งของพระธาตุพนมในอดีตเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าได้ขึ้นมาหมุน แล้วมองลงไปรอบๆ ก่อนจะประกาศก้อง ว่า พื้นที่ทั่วบริเวณนี้จะเป็นที่สืบทอดและเป็นจุดเริ่มต้นพระพุทธศาสนา เสมือนกับวันอาทิตย์เป็นวันเริ่มต้นของวันอื่นในสัปดาห์ ทั้งตั้งพัน ไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศประจำของ “พระราหุล” และยังเป็นองค์เจดีย์ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินอีสาน ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะ ของเทวดาประจำวันอาทิตย์ที่มีพละกำลังที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่หนึ่งเหนือผู้อื่น
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุเรณู อ.เรณูนคร พระธาตุประจำวันจันทร์
พระธาตุเรณู สร้างราวปี พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๖๓ องค์พระธาตุจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เต็ม ก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามา บูรณะในปี พ.ศ.๒๔๙๓ แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน เครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยา และเจ้าเมือง และของมีค่าที่ประชาชนมีศรัทธาบริจาค ต่อมาได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระองค์แสน พระคู่บ้านคู่เมืองเรณูนคร พระพุทธรูปศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ พุทธลักษณะสวยงามมาก บริเวณวัดมีลานวัฒนธรรม ผู้ไทยเรณูนคร โรงละครเมืองเว ไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและนักท่องเที่ยว ทั้งยังมีร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และผ้าพื้นเมืองที่ ไม่ควรพลาดเลือกชมเลือกอุดหนุนอย่างยิ่ง
พระธาตุเรณูนอกจากเป็นพระธาตุประจำเมืองเรณูนครแล้ว ยังเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ด้วย ซึ่งเชื่อว่าสอดคล้องกับสักษณะอ่อนช้อย สีสั้นนุ่มละมุนสบายตา แต่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม ตามรูปแบบศิลปะล้านข้าง เปรียบดังอาชาไนยต้นพาหนะประจำพระจันทร์ และนอกจากนี้ตัวของพระธาตุเองยังหันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศ ประจำของผู้ที่เกิดวันจันทร์ เรณูนครยังเป็นที่ร่ำลือวัฒนธรรม ศิลปหัตถกรรม เครื่องแต่งกายต่างๆ การฟ้อนรํา กิจกรรมต่างๆ ของชาวบ้าน ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นขึ้นชื่อ สวยงาม ผ่องใส เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้ที่ได้รู้จัก เปรียบเสมือนพระจันทร์บนท้องนภา ที่ไม่ว่าใครก็อยากจะหมายปอง
พระอรหันต์ประจําทิศได้แก่ พระอัญญาโกณฑัญญะ” ซึ่งถือเป็นผู้รู้แจ้งเห็นธรรมมาช้านาน แผ่นดินนี้จึงมีแต่ ความมีสงบสุข จากอิทธิพลของเทวดาประจําวันได้ส่งผลให้ผู้ที่ถือกําเนิดขึ้นในวันจันทร์ เป็นผู้ที่มีนิสัยอ่อนโยน มีเมตตากรุณา ขี้สงสารต่อ ผู้ที่ด้อยกว่า เป็นผู้เปี่ยมด้วยความกตัญญู มีจิตใจผ่องใส มีความรักในเพื่อนมนุษย์ มีความออนโยน ยามที่ตกทุกข์มักจะมีคน มาช่วยเหลือ รูปร่างหน้าตาแต่งแต้มไปด้วยเสน่ห์ ช่างคิด ช่างฝัน หวั่นไหวง่าย แต่ที่เข้มแข็งเมื่อสถานการณ์บีบบังคับ
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุศรีคุณ อ.นาแก พระธาตุประจำวันอังคาร
พระธาตุศรีคุณ พระธาตุถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ.๒๓๕๐ ผู้ที่ค้นพบคือชาวบ้านที่เป็นชาวลาวอพยพมาอยู่ในอำเภอนาแก ปัจจุบันเป็นพระธาตุที่บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘-๒๔๔๐ ลักษณะของพระธาตุ มีลักษณะคล้ายกับพระธาตุพนม ความสูงเฉลี่ย ๒๔ เมตร ซึ่งเท่ากับที่ตั้งของพระอังคารคูณสามคือ อันดับของพระอังคารโดยหันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก เฉียงใต้ ตามทิศประจำวันอังคาร โดยรอบทั้งสี่ด้านมีพระพุทธรูปประทับโดยรอบ เพื่อคอยโปรดสัตว์โดยรอบที่อาจมาเหมือน ศัตรูที่สามารถเข้ามาประชิดใต้ทุกเมื่อ ทุกทิศทาง เปรียบเสมือนพระธาตุเป็นป้อมปราการที่คอยปกป้องรักษาพระสารีริกธาตุ อันสำคัญ และมีพระพุทธรูปสี่ด้านเป็นทหารยาม ด้วยเดิมพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเลือดที่เกิดจากการรบราฆ่าฟันจากการแย่งชิง แผ่นดินมาตั้งแต่สมัยล้านช้าง จนมาถึงอาณาจักรขอม กล่าวได้ว่าแผ่นดินนี้ไม่เคยพบความสงบสุขเลยสักครั้ง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะอานิสงส์จากพระอังคาร ผู้ที่ได้รับฉายาว่า “เทพเจ้าแห่งนักรบ” ส่งผลให้ผืนแผ่นดินนี้ยากจะหาความสงบ แต่เมื่อพบ กับพระธาตุดังกล่าว จึงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนให้ห่างจากกิเลส เมืองนาแก จึงกลับสู่สันติสุขจากนั้นเป็นต้นมา
พระอรหันต์ผู้ประจำอยู่ทางทิศอาคเนย์ ได้แก่ “พระมหากัสสปะ” ถือว่าเป็นผู้ที่มีพละกำลังแข็งแกร่ง เพราะว่ามีลักษณะ ร่างกายใหญ่โตเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า พร้อมกับมีปัญญาที่เฉลียวฉลาด ใจหาญกล้า เป็นที่ศรัทธาของผู้พบเห็น เชื่อว่าท่านใด ที่สักการะพระธาตุศรีคุณ ท่านนั้นจะพบแต่ความสุข ความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะท่านที่ต้องการรับราชการจะสามารถเอาชนะ คู่แข่งที่เข้ามา เปรียบดังเจ้าพญาที่สามารถทำสงครามชนะข้าศึกในสนามรบ ด้วยการที่พระอังคารมีพละกำลัง และไม่ชอบการ หยุดนิ่ง เปรียบตั้งพญามหิงสา หรือกระบือที่ชอบทำงาน จึงส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวผจญกับเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ก็จะพบสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ต้องใช้ความพยายาม และพละกำลังกว่าจะผ่านไปถึงจุดนั้นได้
จากอิทธิพลของเทวดาประจำวันได้ส่งผลให้ผู้ที่ถือกำเนิดในวันอังคาร เป็นผู้ที่มีจิตใจห้าวหาญ แข็งแกร่ง ดังทหารกล้า มีสายเลือดของนักสู้ท่วมท้นยึดมั่นในหลักการ และแผนการที่วางไว้ ตรงไปตรงมา เป็นคนชัดเจน เจรจาไม่อ่อน หวาน
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก พระธาตุประจำวันพุธ (กลางวัน)
พระธาตุมหาชัย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๕ องค์พระธาตุมหาชัยมีลักษณะแตกต่างจากพระธาตุอื่นๆ โดยมีรูปทรงแปดเหลี่ยม มองดูคล้ายระฆังทอง โดยเชื่อกันว่าที่รูปทรงเป็นเช่นนี้มาจากหลักการ ๔ พระอรหันต์ โดยเปรียบพระสารีริกธาตุเป็นตั้งองค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าที่อยู่ตรงกลาง โดยมีการสร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบพระธาตุองค์เดิมไว้ นอกจากนี้องค์พระธาตุมีการยกสูงขึ้น จากพื้น เพิ่มความสูงขององค์พระธาตุสูงถึง ๔๐ เมตร ซึ่งเป็นสง่าตอกย้ำด้วยลวดลายอันวิจิตรตระการตาเป็นรูปเหล่าเทวดา ที่เชื่อว่ามีหน้าที่รักษาองค์พระธาตุให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆ เปรียบดั่งตั้งอยู่บนเขาพระสุเมรุ หุบเขาแห่งสรวงสวรรค์ เป็นที่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ ของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระภิกษุสงฆ์รูปแรก ในพระพุทธศาสนา พระสารีบุตรและ พระอนุรุทธเถระ ด้วยบารมีพระอรหันต์หลายองค์ จึงทำให้ผู้ที่ได้ไปกราบสักการะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต โดยมีหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยเป็นผู้นำในการก่อสร้างองค์พระธาตุ
ภายในพระอุโบสถมีพระประธานนามว่า พระพุทธไชยสิทธิ์ และยังมีพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้สะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย และภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถแสดงพุทธประวัติซึ่งมีลวดลายศิลปกรรมที่งดงามมากในภาคอีสาน ที่สำคัญยิ่งที่ทุกท่านควรไปกราบขอพรจากร่างไร้วิญญาณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
พระธาตุดังกล่าวหันหน้าไปทาง ทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ยามตะวันสาดแสงอยู่บน ท้องนภา ที่เป็นเนินสูงขึ้นไปของฐานพระธาตุ เหมือนกับคอกช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) เช่นกัน เนินสูงดังกล่าวจึงเหมือนที่สองข้างยามที่เหวตาประจำวันพุธ (กลางวัน) ลงมาปกปักรักษาพระธาตุ พระอรหันต์ประจำทิศ คือ “พระสารีบุตร” ผู้ที่ถือว่ามีความเป็นเลิศทางปัญญา เจรจาอ่อนหวาน ตรงกับลักษณะของผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน มีความเฉลียวฉลาด ความรอบคอบในการเจรจา ความมั่นใจ ต่อรองทางการค้าเก่ง เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี ชอบติดต่อเจรจา มีศีลปะในการพูดที่ผู้คน ยอมรับ เหมาะที่จะทำการค้าขาย
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุมรุกขนคร อ.ธาตุพนม พระธาตุประจำวันพุธ (กลางคืน)
พระธาตุมรุกขนคร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ลักษณะคล้ายพระธาตุพนม แต่เล็กกว่าก่ออิฐถือปูนเป็นผงสี่เหลี่ยม ฐานกว้างด้านละ ๒๐ เมตร พระธาตุสูง ๕๐.๙ เมตร มีความหมายว่า สร้างขึ้นในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง ครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และจุด ๙ หมายถึงรัชกาลที่ ๙ โดยได้รับการอุปถัมภ์จากหม่อมหลวงทวีสันต์ ลดาวัลย์ ซึ่งเป็น ราชเลขาธิการ และคุณหญิงบุญศรี สนธยางกูลพร้อมด้วยศรัทธาญาติโยมจากทั่วสารทิศทุกหนแห่ง พระธาตุมรุกขนครเป็น พระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุด แต่วัดมรุกขนคร มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว สร้างโดยพระบรมราชา ท่านเจ้าเมืองมรุกขนคร เคยเป็นวัดประจำเมืองที่มีความเจริญมาก จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ตัวเมืองถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง เกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้ย้ายไปตั้งเมืองใหม่ที่บ้านหนองจันทน์ ตำบลท่าค้อ อำเภอเมือง
ด้านบนขึ้นไปบรรจุพระสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้จากการค้นพบซากปรักหักพังของพระธาตุในอดีต พร้อมทั้งแก้ว แหวนเงินทอง ซึ่งมีบันไดขึ้นไปแต่มีประตูปิดกั้นเอาไว้ และยังมีศาสนสถานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอีก เช่น อุโบสถวัดมรุกขนคร เป็นอุโบสถสวยงามโดดเด่นด้วยตราสัญลักษณ์ ครองสิริราชสมบัติ ๕๐ ปี ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในอุโบสถเปิดให้เข้า สักการะองค์พระประธาน ศาลเจ้าปู่ขอม พญานาค ๓ ตน และพระโพธิสัตว์กวนอิม
นอกจากนี้องค์พระธาตุหันหน้าไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศประจำของผู้เกิดวันพุธกลางคืน โดยทิศ ดังกล่าวมี “พระควัมปติ หรือพระสีวลี” เป็นพระอรหันต์ประจำทิศ ผู้เป็นเอตทัคคะเลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายในเรื่องโชคลาภ ผู้ที่เกิดวันพุทธกลางคืน จึงเก่งทางด้านการค้า การเสี่ยงโชค และเป็นที่รักของคนรอบข้างจากอิทธิพลของเทวดาประจำวันได้ ส่งผลให้ผู้ที่เกิดวันพุทธ (กลางคืน) เป็นคนช่างคิด และมีความรอบรู้สูง จิตใจโอบอ้อมอารี และเป็นคนที่มีน้ำใจกว้างดุจนมหาสมุทร แต่มักจะเสียเปรียบเพื่อนฝูงอยู่ เพราะของอาสารับปากช่วยเหลือผู้คน
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า พระธาตุประจำวันพฤหัสบดี
พระธาตุประสิทธิ์ เดิมชื่อ วัดธาตุ เนื่องจากมีเจดีย์เก่าแก่ที่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาในสมัยใด ครั้งแรกที่พบอยู่ใน สภาพชำรุดทรุดโทรมมีเถาวัลย์ปกคลุมไปทั้งองค์พระธาตุ พบโดยชนเผ่าญ้อ ต่อมาพระเจ้าไชยเชษฐาได้เข้ามาบูรณะใหม่ มีลักษณะ คล้ายกับเจดีย์วัดศรีบุญเรือง นครหลวงเวียงจันทน์ สันนิษฐานว่าอาจสร้างรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๔ พระครู ประสิทธิ์ศึกษากร เจ้าอาวาสวัดธาตุประสิทธิ์ ได้ค่าเป็นการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์องค์ใหม่ได้สร้างเลียนแบบพระธาตุพนมบางส่วน สวดสายต่างๆจะเป็นลวดลายใหม่ มักษะนะรูปทรง สี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ ๗.๒๐ เมตร วัดโดยรอบฐาน ๒๔.๕๐ เมตร สูง ๒๔.๕๒ เมตร มีประตูเปิด-ปิด สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ตธาตุรวม ๒๔ พระองค์ และดินจากสังเวชนียสถาน ๔ แห่งคือ ที่ประสูติ ตรัสรู้แสดงพระธรรมเทศนา ปรินิพพาน และพระพุทธรูปที่พบใน เจดีย์องค์ที่เก่ามาบรรจุไว้ในองค์พระธาตุ และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ได้อัญเชิญพระพุทธบาทจำลองที่อัญเชิญมาจากกรุงเทพฯ พร้อม ตั้งชื่อพระธาตุใหม่ว่า พระธาตุประสิทธิ์ ตามรายในนามของพระครูประสิทธิ์ศึกษากร เจ้าอาวาสผู้ก่อสร้างองค์พระธาตุ ที่ศาลา ๑๐๘ พระอรหันต์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จมาเยือนเมืองนครพนม
ด้วยอานิสงส์ พระสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ ได้แก่ พระมหากัสสปะ พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอานนท์ พระอนุรุทธเถระ และดินจาก ๔ สังเวยชนียสถาน ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีพระอรหันต์มาก ผนวกกับเทวาปะจําวันเกิดที่ กําเนิดจากพระฤๅษี ๑๙ ตน ทําให้ผู้ที่กราบสักการะได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่ เป็นผู้รอบรู้ในเรื่องราวต่างๆ รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทําการอันโตก็จะพบแต่ความสําเร็จ เปรียบดังพระอรหันต์ประจํา “ทิศตะวันตก" ผู้ได้ชื่อว่า พุทธอุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า อย่าง “พระอานนท์” ซึ่งติดตามพระองค์ไปทุกที่ ทําให้มีโอกาสได้รับฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าเสมอ จึงเป็นผู้ที่มีความรอบรู้ดัง นักปราชญ์จากอิทธพลอานิสงส์พระธาตุและเทวดาประจําวัน แผลให้ผู้ที่ถือกําเนิดขึ้นในวันพฤหัสบดี เป็นผู้ชอนการศึกษา เล่าเรียน ขอบธรรมะ เป็นคนเจ้าระเบียบ เป็นคนเข้มงวด มีจิตใจเอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง รักสงบ ชอบความมั่นคง และยึดถือ ความถูกต้อง เที่ยงธรรม
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน พระธาตุประจำวันศุกร์
พระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ภายในวัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน อยู่ตรงข้ามกับเมืองหินบูรณ์ แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน ห่างจากจังหวัดนครพนม 26 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี พ.ศ.2455 องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนรูปทรงสี่เหลี่ยม จำลองมาจากพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า โดยสูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้องค์พระธาตุแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 15 เมตร พระธาตุองค์นี้เป็นปูชนียสถานสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง มีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี พระธาตุท่าอุเทนถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ คือหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์
พระธาตุท่าอุเทน ไม่ปรากฏประวัติการก่อสร้างที่แน่ชัด ทราบประวัติเท่าที่จารึกไว้ที่กำแพงพระธาตุ ซึ่ง กล่าวว่า พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน ได้เป็นหัวหน้าชักชวนพระภิกษุสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาทั่วไปร่วมกันก่อสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2453 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2455 บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2540 รวมทั้งพระพุทธรูป และของมีค่าต่างๆ ส่วนซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรจึงได้ทำ การบูรณะจนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2541 พร้อมทั้งได้ทำการเสริมคานคอนกรีตภายในเพื่อป้องกันองค์พระธาตุพังทลาย และ ราวปลายปี พ.ศ. 2557 พระธาตุท่าอุเทนได้รับการบูรณะอีกครั้งจนแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558
ท่าอุเทน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากความอุดมสมบูรณ์ของ พระศุกร์ ที่เกิดจาก “โค" ซึ่งเป็นสัตว์แห่งการเกษตร นอกจากนี้ทิศเหนือยังเป็นทิศประจำของ พระโมคคัลลานะ” พระอรหันต์ ประจำทิศเหนือ ผู้เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนที่ได้พบเห็น ผู้ใดที่มาเยือนที่แห่งนี้ต่างหลงมนต์ เสน่ห์ ที่เกิดมาจากความสงบสุขจากแสงแห่งธรรม และความสวยงามจากธรรมชาติที่รายล้อม สำหรับผู้ที่เกิดในวันศุกร์ เป็นผู้ที่ มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ รักอิสระ รักสวยรักงาม อารมณ์ดี แจ่มใสร่าเริง นิสัยน่ารัก จิตใจดี เหมือนโค ซึ่งเป็นสัตว์ ประจำวันเกิด เป็นผู้มองโลกในแง่ดี แต่จะหลงใหลในสิ่งต่างๆ ได้ง่าย ดังนั้นผู้เกิดวันศุกร์ควรหาสหายคู้ใจที่คอยให้คำแนะนำ
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม
พระธาตุนคร อ.เมือง พระธาตุประจำวันเสาร์
พระธาตุนคร พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันเสาร์ ประดิษฐานที่วัดมหาธาตุ ถ.สุนทรวิจิตร อ.เมือง บริเวณริมฝั่งโขง ภายในองค์ พระธาตบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ พร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่างๆ ที่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ถวายผู้ที่ไป นมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ เสริมบุญบารมี และมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน สิ่งของบูชาพระธาตุ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ธูป 10 ดอก เทียน 2 เล่ม
พระธาตุนคร มีลวดลายอันวิจิตรบรรจงตระการตา ลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปทรงตามแบบพระธาตุพนม องค์เดิมรูปทรงตั้งบน ฐานใหญ่2ฐาน ต่อลดหลั่นกันตามลำดับ แต่ละฐานมีรูปประตูอยู่ตรงกลางบนประตูเป็นรูปคล้ายบัวบาน มีรูปและลายต่าง ๆ ข้างประตู ทำเป็นลายเครือไม้ดอกไม้ผลรูปพระราชาทรงช้างทรงม้าต่อจากฐานใหญ่ทั้งสองขึ้นไปแล้วก็มีลักษณะแหลมเรียวขึ้น ไปตามลำดับ ตอนกลางในด้านทั้งสี่วิจิตรไปด้วยหมู่ดาวกระจาย (ดอกกระจับ) สูงถัดขึ้นไปทำเป็นรูปตู้หนังสือ พระไตรปิฎกโบราณ ต่อขึ้นไปอีกแล้ว ทำเป็นรูปลักษณ์คล้ายกลีบบัวอีก ที่ยอดสุดก็คล้ายดอกบัวตูมต่อจากนี้จึงเป็นฉัตรทองแดงเหลืองเจ็ดชั้น ยอดฉัตรนี้มี ลูกแก้วเจียระไน 1ดวงอยู่สูงสุดยอด ฐานมีกำแพงล้อมรอบ ทั้ง 4 ด้าน มีซุ้มประตูอยู่ตรงการทุกด้านเหนือซุ้มประตูมีรูปปั้นเทพนั่ง ขัดสมาธิประนม มือ(เทพพนม)ซึ่งเป็นเทพมเหศักดิ์พิทักษ์ พิทักษ์รักษาองค์พระธาตุ ที่มุมกำแพงมีเสาสูงขึ้นแล้วทำเป็นดอกบัวตูม บนยอดเสานอกกำแพง มีธาตุดูกล้อมอีกชั้นหนึ่งบนธาตุนั้นเป็นที่สำหรับ วางดอกไม้ธูปเทียนในคราวมีงานพิธีต่าง ๆ
พระธาตุเจดีย์องค์นี้ก่อสร้างเสร็จสิ้นลงในวันเดือนเพ็ญของปี พ.ศ. 2465 จึงได้มีการกำหนดวันที่จะทำการฉลอง เพื่อบรรจุพระอรหันต สารีริกธาตุพร้อมกับองค์พระพุทธรูปทองคำและเงินบรรจุผอบไม้จันทร์แดงที่ได้มาจากพระธาตุเจดีย์องค์เดิมนั้นเอง ทั้งยังได้เปิดโอกาส ให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้นำเครื่องลางของขลังครุฑ ขอ นอ งา ตะกรุด หรือเพชรนิลจินดาเงินทองตลอดจน พระพุทธรูป เก่าแก่ และของมีค่าอื่นๆบรรจุไว้ในองค์พรธาตุ โดยมีงานฉลองสมโภชซึ่งถือเป็นงานประจำปีในวันขึ้น15ค่ำ เดือน5ของทุก ๆ ปี อายุ ราว70 -80ปี หากใครมีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดนครพนม จึงไม่ควรพลาดที่จะไปกราบสักการะพระธาตุนครครั้งหนึ่ง เพื่อเป็น สิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และคนใกล้ชิด อธิษฐานจิตให้ดำรงชีวิตอยู่ในความไม่ประมาท เร่งทำความดีเพื่อสะสมเป็นพลังบุญไว้แก่ ตนเองในภาย ภาคหน้า
ข้อมูลและภาพจากเว็บ
จังหวัดนครพนม