วัดดัง จ.กาญจนบุรี ท่องเที่ยวไหว้พระ เสริมบุญบารมีต้อนรับปี 2566
สอบถามข้อมูลการเดินทางไปเที่ยวชมวัดต่างๆ ได้ที่ ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 034-511200, 034-512500 ในวันและเวลาราชการ หรือทาง
www.facebook.com/tatkan
วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา
วัดทิพย์สุคนธาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันมีพระศรีวชิรสุธี เป็นเจ้าอาวาส วัดทิพย์สุคนธารามตั้งวัดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550
วัดทิพย์สุคนธารามเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ พระพุทธรูปปางขอฝน (บางคันธารราฐ) องค์โลหะสำริด สูง 32 เมตร ยืนอยู่บนฐานสูง 8 เมตร ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษาและเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม พระพุทธมหาเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐอนุสรณ์ ตั้งอยู่ที่ลานพระทักษิณซึ่งเสมือนเขตพุทธวาส บริเวณโดยรอบ มีหอเกียรติประวัติสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อาคารประกอบต่างๆ และอ่างเก็บน้ำในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งมีการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ให้เปรียบเสมือน“พุทธอุทยาน”ที่มีลานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณารับโครงการไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2554
- เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเยี่ยมชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00 - 17.00 น.
- ที่อยู่: วัดทิพย์สุคนธาราม, ถนนอู่ทอง-บ่อพลอย, ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา กาญจนบุรี 71170
- โทรศัพท์: 034-510993
- Location map
- Facebook
วัดสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา
วัดสระลงเรือ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และประมาณ 100 กว่าปีได้มีผู้คนอพยพมาอาศัยบริเวณวัดสระลงเรือ ได้พบวัดเก่าซึ่งมีสิ่งปลูกสร้างที่ยังเหลืออยู่ในขณะนั้น เช่น เจดีย์ และพระปรางค์ 2 องค์ วิหารและอุโบสถ ซากปรักหักพัง ในอุโบสถหลังนี้มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประทับอยู่ในนั้น และมีต้นโพธิ์ใหญ่ปกคลุมอุโบสถ มีสระน้ำสระเล็กอยู่ด้านหน้าอุโบสถ ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา นายจำเนียร ใคร่ครวญ ซึ่งเป็นชาวบ้านสระลงเรือโดยกำเนิดแต่ได้ไปทำธุรกิจในต่างถิ่น ได้เข้ามากราบขอพรจากหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอนันตภูมิสุคคุตโต) ซึ่งในปัจจุบันประทับอยู่ในวิหารแก้ว หน้าพระอุโบสถวัดสระลงเรือ หลังจากนั้นชีวิตของนายจำเนียร ใคร่ครวญ ก็ได้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ทุกประการ ต่อมานายจำเนียร ใคร่ครวญจึงได้สร้างพระอุโบสถและเรือสุพรรณหงส์ขึ้นภายในวัด (บริเวณสระน้ำโบราณที่ได้รับการขยายให้กว้างขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัว) โดยให้เหตุผลว่า ตนได้รับพรจากหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอันตภูมสุคคุตโต) จึงตั้งใจสร้างพระอุโบสถและเรือสุพรรณหงส์ลำนี้ขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์และทดแทนบุญคุณหลวงพ่อใหญ่องค์ดำ (พระพุทธอนันตภูมิสุคคุตโต) ที่ประทานมาให้แก่ตัวของนายจำเนียร ใคร่ครวญ และครอบครัว
สิ่งสำคัญในวัด
- เรือสุพรรณหงส์จำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- พระอุโบสถ
- มณฑปพระครูอรัญกาญจนเขต (หล่วน กนฺตสีโล)
- สวรรค์นรกภายในพระอุโบสถ
- ศาลาการเปรียญ
- เจ้าแม่กวนอิมกลางสระน้ำ
- พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ
- ที่อยู่: ทางหลวงหมายเลข 3443 ตำบล สระลงเรือ อำเภอ ห้วยกระเจา กาญจนบุรี 71170
- โทร.0813346375
- แผนที่
- เว็บไซต์ watsalongrua.com
วัดถ้ำพุหว้า อ.เมืองกาญจนบุรี
วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นสาขาหนึ่งของวัดปากน้ำ วัดถ้ำพุหว้าเป็นถ้ำลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ หน้าถ้ำมีปราสาทหินทรายรูปแบบศิลปะขอมโบราณประยุกต์ขนาดใหญ่สีน้ำตาลแดง มีลวดลายประณีตสวยงาม บรรยากาศโดยรอบมีลักษณะภูมิประเทศโอบล้อมด้วยภูเขาและป่าไม้ ร่มรื่น สะอาด สวยงาม เมื่อเข้าไปภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยงดงาม ว่ากันว่าเดิมทีเดียววัดแห่งนี้มีถ้ำเป็นอุโบสถ โดยภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางสมาธิประดิษฐานเป็นพระประธาน รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศเมียนมา ให้นักท่องเที่ยวได้สักการะบูชาด้วยเช่นกัน ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายครอบตัวถ้ำเอาไว้
นอกจากเป็นสถานที่เหมาะกับการปฎิบัติธรรมแล้ว ยังเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับหมู่คณะที่สามารถรองรับ ได้ถึง 500 คน เนื่องจากมีอาคารที่พัก โรงอาหาร และฐานผจญภัยต่างๆ พร้อมวิทยากรฝึกอบรม ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 087 166 1819 034-511200, 087 166 1819
- ที่อยู่: ตำบล หนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
- แผนที่
วัดพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ ที่สุด unseen อีกแห่งของกาญจนบุรี
พระธาตุโบอ่อง ตั้งอยู่บริเวณบ้านโบอ่อง ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านในตำบลปิล็อค จ.กาญจนบุรี การเดินทางเข้าถึง ต้องนั่งเรือไปยังเกาะโบอ่องเท่านั้น
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ ตั้งอยู่บนเขาเล็กๆ กลางทะเลสาป
เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงพุทธ และชาวมอญ ในละแวกพื้นที่นั้นมายาวนาน จัดเป็นสถานที่และศาสนสถาน สุด unseen ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงมอญ ความสูง 6 เมตร ฐานกว้างประมาณ 3x3 เมตร สร้างอยู่บนยอดเขาหินปูนเล็ก ๆ ที่มีบึงน้ำใหญ่ล้อมรอบ ในบึงมีบัวขึ้นอยู่รายล้อม และมีนกน้ำนานาชนิด ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า เจดีย์พระธาตุโบอ่องสร้างมาตั้งแต่สมัยใด ข้างองค์พระธาตุ มีหอระฆังขนาดเล็ก ที่มีระฆังแขวนอยู่ ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่า เป็นระฆังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้พระราชทานไว้ให้แขวนคู่กับพระธาตุโบอ่องแห่งนี้
เจดีย์พระธาตุโบอ่อง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาวบ้านในหมู่บ้าน มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงเดินข้ามสะพาน เพื่อขึ้นไปบนยอดเขา ทำให้น้ำในบึงที่อยู่บริเวณโดยรอบนั้นเหือดแห้งหายไป จึงเกิดเป็นความเชื่อของชาวบ้าน ที่ต้องออกกฎว่า "ห้ามผู้หญิงเดินข้ามสะพาน เพื่อเข้าสู่เขตพระธาตุโดยเด็ดขาด" หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ว่ากันว่าบุคคลผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไปต่างๆนานา (***เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารญาณ***) โดยทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี จะมีประชาชนชาวบ้านที่เคารพศรัทธา เดินทางไปนมัสการเจดีย์พระธาตุโบอ่องแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
- ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี 71180
- แผนที่
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ - วิหารพระโพธิสัตว์กวนอิม อ.เมืองกาญจนบุรี
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ตั้งอยู่ที่ ต.หนองหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี เป็นวัดมหายานจีนนิกาย อยู่ท่ามกลางหุบเขาบรรยากาศร่มรื่น เป็นวัดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวและทำบุญ
ตัววัดสร้างจากไม้ทั้งหลังแกะสลักลงสีแบบสถาปัตยกรรมจีนสวยงาม มีพระโพธิสัตว์กวนอิมพันกรองค์ใหญ่แกะสลักจากไม้ สูง 12 เมตร สวยงามน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง และมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้หอมปางต่างๆ อีกกว่า 100 ปาง เสาไม้ขนาดใหญ่สลักลวดลายมังกรพันรอบเสาสวยงาม และมีงานไม้แกะสลักอีกมากมายให้ได้ชม
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "慈悲山菩提禪寺 ฉื่อปุยซัวผู่ทีเซียมยี่" การสร้างวัดเริ่มจากเมื่อ ปี พ.ศ. 2537 พระอาจารย์ เย็นหมง จากวัดโพธิ์เย็น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรีได้เดินทางธุดงค์มาถึงบริเวณนี้ และได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมในถ้ำบนภูเขาทางเข้าด้านเหนือ ภายในถ้ำมีอัฐิและสิ่งของต่างๆหลายอย่าง ท่านได้พักปฏิบัติธรรมอยู่นานประมาณ 5 เดือน ท่านได้เกิดนิมิตมงคลว่าดินแดนแห่งนี้เหมาะแก่การสร้างวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนามหายานจีนนิกาย ท่านจึงได้ตั้งจิตอฐิฐานและปวารนาตัว ที่จะสร้างวัดนิกายจีนมหายานขึ้นมาในบริเวณนี้ ท่านจึงได้หารือกับญาติโยมหลายฝ่าย ซึ่งต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นสถานที่กราบไหว้พระ-ปฏิบัติธรรม ของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เป็นสถานที่เผยแผ่ ศึกษา ค้นคว้าพระพุทธศาสนานิกายจีนในประเทศไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะของชาวไทย และชาวต่างประเทศ เป็นศาสนสถานของแผ่นดินและเป็นสมบัติของชาติ ของลูกหลานคนไทยตลอดไปตราบกาลนาน
โดยการสร้างวัดเริ่มจากสร้างศาลาหลังแรกสำเร็จเมื่อปี พ.ศ 2542 และได้รับการประทานชื่อศาลา จาก สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร สกลมหาสังฆปรินายก ว่า "ศาลาโพธิญาณเฉลิมพระเกียรติ" นับเป็นศิริมงคลต่อวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ เป็นอย่างยิ่ง
- 99/10 หมู่ 7 ต.หนองหญ้า อ.เมือง กาญจนบุรี
- แผนที่
- เปิด : 8:00-18:00 น. ทุกวัน
- โทรศัพท์ 034-531626, 034-531388
- facebook.com
วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง
วัดถ้ำเสือ เป็นวัดและสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่บนยอดเขาในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนตั้งอยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนาและประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม
จุดเด่นของวัดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาให้มาเยี่ยมชมคือพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรีนามว่าหลวงพ่อชินประทานพร ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 โดยตัวองค์พระประดับโมเสกสีทองอร่ามทั้งองค์โดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา การขึ้นไปยังพระพุทธรูปจะต้องเดินขึ้นบันไดนาค ต้นบันไดมีสัตว์หิมพานต์สีสันสวยงามตั้งอยู่หลายตัว บันไดทางขึ้นนี้มี 157 ขั้น หากไม่สะดวกที่จะเดินขึ้นบันได ทางวัดมีรถรางบริการในราคาคนละ 10 บาท
ขณะเดินหรือนั่งรถรางขึ้นเขาสามารถมองลงไปชมชมวิวทิวทัศน์ทะเลสาบและเขื่อนวชิราลงกรณ์โดยรอบได้ในมุมกว้าง ที่อยู่ถัดจากองค์พระพุทธรูปคือพระเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท องค์พระเจดีย์มีขนาดใหญ่ มีความสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร เป็นสีอิฐทั้งองค์ แบ่งเป็นชั้นต่าง ๆ เก้าชั้น แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปสำริดประดิษฐานอยู่ ภายในยังมีจิตรกรรมฝาผนังงดงาม มีบันไดเวียนสำหรับขึ้นไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่ชั้นที่เก้า ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของพระเจดีย์ โดยพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ภายในได้อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียในปี พ.ศ. 2533หน้าต่างอีกด้านหนึ่งของเจดีย์ยังสามารถมองไปเห็นวิหารจีนของวัดถ้ำเขาน้อยที่ตั้งอยู่ใกล้กันและมีความสูงใกล้เคียงกัน ด้านข้างองค์พระพุทธรูปยังมีอุโบสถทรงจตุรมุข มีซุ้มเสมารอบ 8 ทิศเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยที่มีลวดลายสวยงามวิจิตรด้านหลังสามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาและทุ่งนาสีเขียว บริเวณเชิงเขามีถ้ำเสือ ซึ่งเป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในมีร่างของพระครูสิทธิวิมล (หลวงปู่ชื่น ปาสาทิโก) อยู่ในโลงแก้ว มีประดิษฐานพระประจำวันเกิดและมีจัดจำหน่ายวัตถุมงคล เดินทางอย่างไร หากมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม จากนั้นขับมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไปอำเภอท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายไปเข้าเส้นแสงชูโตเก่า จากนั้นไปตั้งหลักที่วงเวียนหอนาฬิกา โรงพยาบาลท่าม่วง วิ่งเลียบถนนเขื่อนวชิราลงกรณ์ไปจนสุดทาง จะพบสามแยก ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางอีก 1 กิโลเมตรจะพบแยกซ้ายเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทางจะพบป้ายบอกทางเข้าวัด วัดถ้ำเสือตั้งอยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อย
- ที่ตั้ง: ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
- แผนที่
- โทร. 034-655383
วัดบ้านถ้ำ อ.ท่าม่วง
วัดบ้านถ้ำ ห่างจากวัดถ้ำเสือไปทางตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร มีจุดเด่นที่โด่งดัง คือ ทางขึ้นถ้ำเป็นบันไดลึกเข้าไปในปากมังกรตัวใหญ่ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปหลวงพ่อใหญ่ชินราชและโบราณวัตถุ มีหินงอกลักษณะคล้ายผู้หญิง เชื่อกันว่าคือ นางบัวคลี่ ภรรยาของขุนแผนตามตำนานอิงประวัติศาสตร์เรื่องขุนช้างขุนแผน และบนยอดเขายังมีถ้ำที่มีหินงอก หินย้อยสวยงามอีกหลายถ้ำ
วัดบ้านถ้ำเป็นโบราณสถานสำคัญทางพุทธศาสนาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี จดทะเบียนกรมศาสนา เมื่อปี พ.ศ.2325 ปัจจุบันมีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา กรมศิลปากรได้เข้ามาสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2492 ซึ่งพระยาอนุมานราชธน อธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้น ให้คำสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยาติดต่อกัน เพราะพระพุทธรูปที่เป็นพระประทานในถ้ำและใบพัทสีมาอุโบสถเก่าของวัดเป็นสมัยสุโขทัย ส่วนพระพุทธรูปหินทรายเป็นสมัยกรุงศรีอยุธยา
จุดสำคัญน่าสนใจอื่นในวัด อาทิเช่น พระอุโบสถหลังเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิพร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตรที่ทำด้วยหินทรายลงรักปิดทองอันเป็นของเก่าที่มีมาแต่เดิม ส่วนภายในพระอุโบสถหลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง ที่ทำพิธีหล่อขึ้น ณ วัดชีปะขาวหาย จังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ยังสามารถชมถ้ำที่สวยงามต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น ถ้ำคูหามังกรสวรรค์ ถ้ำนางบัวคลี่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อใหญ่ชินราช" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ รวมทั้งถ้ำอื่น ๆ เช่น ถ้ำม่านวิจิตร ถ้ำขุนแผน ถ้ำดอกจอก อุทยานถ้ำดุสิต ถ้ำหมื่นหาญ ถ้ำนางนวล ถ้ำนางนอน นอกจากนี้บนยอดเขายังเป็นจุดชมวิวที่น่าสนใจอีกมุมหนึ่งของกาญจนบุรี ซึ่งมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนโอบล้อมเอาไว้สวยงามราวภาพประทับใจ
- ที่อยู่ 72 หมู่ 1 ท่าม่วง, กาญจนบุรี
- เปิดทุกวัน เวลา 07.00 - 17.00 น.
- โทร. 034-655160
วัดหินแท่นลำภาชี อ.ด่านมะขามเตี้ย
วัดแท่นหินลำภาชี ตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองไผ่ อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเด่น สุดอลังการ คือ อุโบสถบนสำเภาแก้ว สีขาว เรียกว่า โบสถ์สำเภาแก้วร้อยล้าน ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์ ขนาบข้างด้วยเรืออนันตนาคราชลักษมี หนึ่งเดียวในประเทศไทย ด้านหน้าอุโบสถประดิษฐานองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
วัดหินแท่นลำภาชี ถูกสันนิษฐานว่าตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2481 ปัจจุบันมีพระครูถาวรกาญจนธรรม หรือหลวงพ่อสมคิด เป็นเจ้าอาวาส โดยแนวคิดในการสร้างโบสถ์แก้วประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น หลวงพ่อสมคิด กล่าวว่า พระครูมหาพุทธาภิรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารบางขุนพรม ได้นิมิตเห็นสถานที่ก่อสร้าง จึงนำคณะศรัทธาหลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) มาช่วยสร้าง ใช้ปัจจัยไปกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งมาจากศรัทธาของ หลวงพ่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ทั้งสิ้น โดยความหมายของโบสถ์แก้วที่ประดิษฐานอยู่บนเรือหงส์นั้น สีขาวของโบสถ์ หมายถึงกระจกขาว ที่สื่อถึงพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐเปล่งประกาย ไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล ส่วนเรือสุพรรณหงส์ หมายถึง การนำพามนุษย์ ข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ด้านข้างทั้ง 2 ของโบสถ์ มีเรือขนาบข้างด้วย เรืออนันตนาคราชลักษมี ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ เด่นตั้งตระหง่านอยู่หน้าโบสถ์ และด้านหลังของโบสถ์มีท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวัณ อธิบดีแห่งอสูรหรือยักษ์ เจ้าแห่งผีหนึ่งในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ผู้คุ้มครองและ ดูแลโลกมนุษย์ สิงสถิตอยู่บนสวรรค์ นอกจากนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดอีกอย่างหนึ่ง คือ ศาลาประดิษฐาน 3 บูรพา พระมหากษัตริย์ในอดีต คือ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระปิยมหาราช หรือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ ๕ แห่งราชวงศ์จักรี โดยผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวาย โดยมีคติความเชื่อว่ากษัตริย์ 3 พระองค์น่า จะเคยเสด็จผ่านสถานที่สร้างวัด
- ที่อยู่: ตำบล หนองไผ่ อำเภอ ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี 71260
- แผนที่
- เปิดทุกวัน 08:30 น. - 17:00 น.
- โทร. 092-6256394
- facebook.com
วัดเขาสูงแจ่มฟ้า อ.ท่ามะกา
วัดเขาสูงแจ่มฟ้า เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลเขาสามสิบหาบ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ดิน 15 ไร่ วัดเขาสูงแจ่มฟ้าเริ่มก่อสร้างสำนักสงฆ์เมื่อ พ.ศ. 2522 ได้รับการแต่งตั้งประกาศวัดขึ้นทะเบียนในพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558 โดยนายการุณ ปุญสิริ ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัด มีพระครูวินัยธรเกียงไกร ติกุขวิริโย พงษ์ธนจิรายุส เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกจนถึงปัจจุบัน วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558 วัดได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถเมื่อ พ.ศ. 2550 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลา 9 ปี
สิ่งสำคัญในวัด หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่, สมเด็จพระพุฒาจารย์โต, พระพุทธรูปองค์ดำปฏิหาริย์ พระประธาน พระพุทธไสยาสน์ พระนอนองค์ใหญ่, เจ้าแม่กวนอิม, พญาธนบดีนาคราช พ่อท้าวเวสสุวรรณ, องค์พระพิฆเนศวร, สกายวอล์กชมทิวทัศน์, ทางเดินเสาโทริอิสีแดงแบบวัดญี่ปุ่นในนครเกียวโต