Eat Fun Travel Latest view Top view
Thumbnail imgxs

สมุทรสาครมีวัดดังๆ หลายแห่งที่เป็นที่รู้จัก อบจ.สมุทรสาคร ได้รวบรวมข้อมูลพร้อมภาพสวยๆ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ ร่วมทำบุญตามพลังศรัทธา และสัมผัสเอกลักษณ์เด่นของและบรรยากาศดีๆ ของแต่ละวัด

 7 วัดเด่นสมุทรสาคร ที่ต้องแวะ ได้แก่ วัดโคกขาม วัดศรีวนาราม วัดใหญ่จอมปราสาท วัดใหญ่บ้านบ่อ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) วัดเกตุมดีศรีวราราม วัดกาหลง ทุกวันอยู่บนถนนพระราม 2 ขาออกจากกรุงเทพ แวะได้เมื่อเดินทางขาออก ถือเป็นการนมัสการเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัยในทุกการเดินทาง ก็ได้เช่นกัน
*ข้อมูลและภาพจาก อบจ.สมุทรสาคร

วัดโคกขาม

image ext
image ext
  • วัดโคกขามเลขที่ 15 หมู่ที่ 2 ทางหลวงชนบท สค.5031 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 | แผนที่วัดโคกขาม  | facebook 
 
วัดโคกขาม เป็นวัดเก่าแก่ที่สวยงาม มีร่องรอยของความเป็นโบราณสถานที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และมนต์ขลังที่ผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี สันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ประมาณปี พ.ศ.2222
 
วัดแห่งนี้มีถาวรวัตถุและสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งด้านหน้ามีพระเจดีย์เก่าที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม คาดว่าเป็นสถาปัตยกรรมการก่อสร้างศิลปะแบบอยุธยา มีการแกะสลักไม้ที่หน้าบันด้วยลวดลายที่วิจิตงดงาม
 
ศาลพันท้ายนรสิงห์เก่า ซึ่งมีรูปหล่อของพันท้ายนรสิงห์ และศาลเจ้าพ่อเสือ ซึ่งถือว่าเป็นตำนานคู่เมืองสมุทรสาคร และคลองโคกขามมาช้านาน
 
นอกจากนั้นที่วัดนี้ยังเก็บโบราณวัตถุที่เล่ากันว่าเกี่ยวพันกับเรื่องของพันท้ายนรสิงห์ไว้หลายอย่าง เช่น ชิ้นส่วนของเรือพระที่นั่งเอกชัย และศาลเพียงตาของเดิม
 
และยังมีหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธสิหิงค์ที่ถือได้ว่า เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสาคร (ในประเทศไทย มีพระพุทธสิหิงค์เพียง 4 องค์เท่านั้นและหนึ่งในนั้นประดิษฐานที่วัดโคกขามแห่งนี้นั่นเอง) โดยตัวองค์พระเป็นพระพุทธรูปเชียงแสนยุคต้น คาดว่ามีอายุประมาณ 300 ปี มีพุทธลักษณะใบหน้าอิ่มเอิบ สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ และความสุข
 
พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ 4 หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า หลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์มหาอุตม์ ซึ่งสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปที่ไทยได้แบบอย่างมาจากประเทศศรีลังกา แต่เดิมปรากฎพระพุทธสิหิงค์ในประเทศไทยเพียง 3 องค์ เท่านั้น คือ องค์ที่ 1 ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร องค์ที่ 2 ประดิษฐานที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ และองค์ที่ 3 ประดิษฐานที่หอพระสิงห์ จังหวันครศรีธรรมราช
 
โดยพระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ 4 ซึ่งประดิษฐานที่วัดโคกขามนี้นั้น มีขนาดหน้าตักกว้าง 66 ซม. สูง 83 ซม. รอบฐาน 153 ซม. เนื้อเป็นทองสีดอกบวบหนัก 37 ชั่ง 1 ตำลึง ทรวดทรงพระองค์อวบอ้วน พระหนุนูน พระพักตร์กลม พระโขนงโก่งโค้ง พระนาสิกเป็นสันโค้ง พระโอษฐ์แคบ พระรัศมีเหนือพระเกตุมาลาเป็นเปลวสั้น เส้นพระศกขมวดเป็นต่อมกลม ท่านั่งขัดสมาธิเพชร พระหัตถ์วางในท่าปางมารวิชัย ครองผ้าแบบห่มดอง ฐานรองเป็นฐานเขียง มีลักษณะทั่วไปเป็นแบบเชียงแสนรุ่นแรก เชื่อว่าเป็นฝีมือของช่างเป็นของปฏิมากรชาวล้านนาไทย
 
ในประวัติก่อนที่มาประดิษฐาน ณ วัดโคกขามนี้ ท่านได้เคยถูกลงรักปิดองค์ดำตลอดทั้งตัว เพื่อนำมาซ่อนไว้ในวัดโคกขามแห่งนี้ เพราะถือเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ต่อมาในอีก 200 ปีให้หลัง รักที่ปิดองค์พระพุทธสิหิงค์ก็เริ่มจางลงตามกาลเวลา และเสื่อมคุณภาพลง จนสามารถมองเห็นเนื้อทองของท่านอย่างเด่นชัดในบางส่วน และเริ่มมากขึ้นทุกวันที่เวลาได้ผันผ่านไป เหตุการณ์นี้จึงถูกถือว่า เป็นนิมิตรหมายอันดีที่พุทธศาสนิกชนคนไทยทั้งชาติ ที่จะได้มีโอกาสสักการะบูชาพระพุทธสิหิงค์ทอันมีความศักดิ์สิทธิ์งดงามล้ำค่าของชาติไทยอีกองค์หนึ่งนั่นเอง
 
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้กันยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ เช่น นาเกลือโคกขาม หมู่บ้านประวัติศาสตร์โคกขาม ตลาดริมคลองโคกขาม จุดดูนกชายเลนหายาก วังกุ้ง วังปลา ป่าชายเลน และยังมีร้านอาหารคาเฟ่อีกหลายที่ให้เลือกอิ่มอร่อย

วัดศรีวนาราม (บางสีคตใน)

image ext
image ext

วัดศรีวนารามเป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่ริมวัง ทำให้มีบรรยากาศหลังวัดที่สวย ปัจจุบันวัดกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ เพิ่ม ที่แปลกตา เช่น เจดีพุทธคยาจำลอง (ยังไม่แล้วเสร็จ) ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า สูงเสียดฟ้า ชิดขอบน้ำ และมีท้าวเวสสุวรรณที่สวยงามดังที่เราเคยพาไปชมแล้ว และมีจุดน่าสนใจอื่นๆ อีกมาก
 
ตำนานเด่นดังของวัด เริ่มจาก พระอาจารย์เจริญ ขนฺติโก ได้ใช้วิชาซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูสาครธรรมวิธาน (หลวงพ่อต่วน เตชธโร) เจ้าอาวาสวัดน่วมกานนท์ ในการดูดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เสริมราศี การทำพิธีเสริมดวง ไหว้พระราหู ครอบครู และลงนะหน้าทองกับสาลิกาลิ้นทองให้แก่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป ทำให้คลื่นมหาชนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระอาจารย์เจริญ จึงได้ร่วมกันพัฒนาวัดศรีวนาราม จนมีความเจริญรุ่งเรืองมากพอสมควร

วัดใหญ่จอมปราสาท

image ext
image ext
  • วัดใหญ่จอมปราสาท หมู่ที่ 5 ซอยท่าจีน ซอย 1 ถนนพระรามที่ 2 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 | แผนที่วัดใหญ่จอมปราสาท

วัดใหญ่จอมปราสาท ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ช่วงเชิงสะพานท่าจีน เป็นวัดเก่าแก่มีอายุมากกว่า 400 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่อยุธยา ในสมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ โดยชื่อวัดเดิมนั้นรัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานนามว่า วัดใหญ่สาครบุรี รวมทั้งได้พระราชทานพระไตรปิฎกและยกฐานะเป็นพระอารามหลวง แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดใหญ่จอมปราสาท" ดังในปัจจุบัน
 
ภายในวัดมีโบราณสถานที่สำคัญ ทั้ง พระวิหารเก่าแก่ ศิลปะการก่อสร้างแบบก่ออิฐถือปูน มีฐานโค้งคล้ายท้องเรือสำเภา (สมความเป็นเมืองสาครบุรี) บริเวณซุ้มประตูและหน้าต่างประดับลวดลายปูนปั้น นอกจากนี้ยังมีการแกะสลักไม้ที่บานประตูและหน้าต่างของพระอุโบสถ เป็นลวดลายของสุมทุมพุ่มพฤกษ์นานาพันธุ์ ภูเขา สัตว์โลกน่ารัก และรูปคนในอริยาบทต่าง ๆ ซึ่งมองดูแล้วน่าจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบจีน ลวดลายดังกล่าว ถูกแกะสลักลึกเข้าไปในเนื้อไม้เลยทีเดียว โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนให้วัดนี้เป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 27 กันยายน ปี พ.ศ. 2479
 
โดยลายสลักนี้จะอยู่ที่พระอุโบสถ ซึ่งมีบานประตูไม้ที่แกะสลักลึกเข้าไปในเนื้อไม้ถึง 4 ชั้น ทำให้มองดูแล้วคล้ายภาพสามมิติ โดยมีบานประตูบานหนึ่งแกะเป็นลวดลายเถาดอกไม้ ใบไม้ สัตว์ต่างๆ ส่วนอีกบานจะแกะสลักเป็นรูปป่าสนจีน ที่มีลักษณะคล้ายต้นจากและต้นมะพร้าว ซึ่งเป็นพันธุ์พืชที่พบได้ดั้งเดิมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
 
ภายในพระอุโบสถปะดิษฐานพระพุทธรูป คาดว่าเป็นศิลปะในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยด้านบนเพดานและขื่อมีลวดลายเขียนสีรูปดอกไม้และลายประจำยาม
 
วัดใหญ่จอมปราสาท เป็นอีกวัดที่น่ามาถ่ายรูปด้วยครับ โดยเฉพาะถ่ายด้วยชุดไทย หรือจะถ่ายพรีเว็ดดิ้งก็คงสวยดี ให้ฟีลเหมือนอยู่ในหนังอโยธยา

วัดใหญ่บ้านบ่อ

image ext
image ext
  • วัดใหญ่บ้านบ่อ เลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ทางหลวงชนบท สค.2020 ตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 | แผนที่วัดใหญ่บ้านบ่อ  | facebook
 
วัดใหญ่บ้านบ่อ เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าที่สวยงามของสมุทรสาคร ตั้งอยู่ใน ตำบลบ้านบ่อ ริมคลองสุนัขหอน ภายในวัดมีถาวรวัตถุที่น่าสนใจและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในหลาย ๆ จุด เช่น โบสถ์เก่า อาคารเก่า รวมถึงโบราณวัตถุอย่างพระพุทธรูปก่าแก่มากมายประดิษฐานไว้ในตัวโบสถ์เก่า ที่ดูวินเทจ คลาสสิคออริจินัลมาก ซึ่งตัวโบสถ์นั้น คาดว่ามีอายุมากกว่า 300 ปี ก่อสร้างโดยการใช้ไม้ต้นใหญ่ ทำเสา กำแพงเป็นอิฐมอญ เพดานเป็นไม้ แม้จะมีสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลา แต่ยังคงมนต์เสน่ห์ความเข้มขลังแห่งกาลก่อนได้อย่างลงตัว

 
พระพุทธรูปเก่าภายในก็น่าสนใจครับ มีหลวงพ่อพระประธานที่สวยงดงาม, พระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งเป็นพระปัญจวัคคีย์ 5 องค์ นอกจากนั้นยังมีหลวงพ่อป่าเลไลย์ อยู่หน้าอุโบสถด้วย พุทธสถานอันควรค่าแก่การอนุรักษ์นี้ถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของชุมชนบ้านบ่อ และชุมชนใกล้เคียง ซึ่งมีลักษณะเป็นพหุวัฒนธรรม ซึ่งมีความสำศัญมาตั้งแต่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเลยทีเดียว
สันนิษฐานว่า วัดใหญ่บ้านบ่อนี้ น่าจะถูกสร้างขึ้นประมาณ ปี 2269 ซึ่งเมื่อก่อนนั้นกุฎิสงฆ์จะตั้งอยู่ริมฝั่งคลองสุนัขหอน แต่ตลิ่งพังเลยต้องย้ายเสนาสนะต่าง ๆ ไปปลูกห่างจากที่ตั้งเดิม
จริง ๆ แล้ว หากค้นกันให้ลึกขึ้นอีก จะพบว่า วัดใหญ่บ้านบ่อได้ถูกกล่าวถึงในนิราศหลายเรื่องด้วยกัน เพราะคลองสุนัขหอน นับเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยก่อน ทำให้ใช้เป็นเส้นทางคมนาคมติดต่อระหว่าง สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และ ราชบุรี มาตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน เรายังได้เห็นเรือเกลือใช้เส้นทางนี้อยู่เป็นนิจครับ

วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม)

image ext
image ext
  • วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) เลขที่ 817 ถนนสุทธิวาตวิถี ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000  โทร. 034-478405  | แผนที่วัดช่องลม  |  facebook 

วัดช่องลมเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญต่อชาวสมุทรสาครเป็นอย่างมาก นอกจากจะเป็นจุดศูนย์รวมความศรัทธาของชาวท่าฉลอม และระแวกใกล้เคียงแล้ว ยังเป็นสถานที่อันสำคัญคู่กับประวัติศาสตร์ของสุขาภิบาลแห่งแรกของไทยอีกด้วย ด้านหน้าวัด (ริมปากอ่าว) มีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินท่าฉลอม และทรงตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของไทย
 
และอีกจุดที่สำคัญคือ วิหารหลวงปู่แก้ว หรือวิหารนกนางแอ่นแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งได้นับว่าเป็น Unseen ของสมุทรสาครเลยครับ ภายในวิหารมีนกนางแอ่นมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากสันนิษฐานว่าเคยมีเป็นหมื่นตัว ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์ใจเพราะโดยปกตินกนางแอ่นจะทำรังตามผนังถ้ำหินปูนบนเกาะกลางทะเลในที่สูงบ ห่างไกล หรืออยู่ตามคอนโดนกจำลอง ทว่าที่โบสถ์นี้ เหล่านางแอ่นกลับพากันมาอาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ ทำให้เราได้เห็นรังนกจำนวนมากภายในวิหาร รวมถึงลวดลายเอกลักษณ์ที่สรรค์สร้างโดยธรรมชาติ อย่างศิลปะฝาผนังซึ่งเกิดจากที่นกทิ้งมูลไว้เป็นริ้ว ๆ ด้านหลังยังมีรูเหนือฝ้าเพดานขนาดหนึ่งตารางเมตร ให้นกอาศัยอยู่อีกจำนวนมาก

ไฮไลท์อยู่ที่ช่วงเวลาที่นกนางแอ่นเข้าออกจากรังเป็นแถว ๆ ในช่วงเช้าราวหกโมงครึ่ง และช่วงนกกลับรังประมาณ 19.00-19.30 น. ทว่า หากเป็นตอนกลางวัน เราจะได้เห็นนกที่กำลังหัดบินจำนวนมากเกาะอยู่รอบ ๆ รวมถึงนกตัวน้อยที่พลัดหลงกับพ่อแม่ตกลงมาบ้าง แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ทางวัดมีผู้ดูแลวิหารคอยเก็บมาเลี้ยง และอนุบาลจนกว่านกน้อยจะโผบินได้เช่นพ่อแม่ครับ เดิมนกเหล่านี้อาศัยอยู่ที่อุโบสถ หลวงปู่แก้วให้อาศัยอยู่ด้วยความเมตตา จากที่เคยมีจำนวนน้อย ๆ แต่ด้วยความเมตตาปราณีที่มีอยู่ในจิตใจของคนที่อยู่ในบริเวณนั้น จึงเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังทางวัดจึงวางอุบายให้ย้ายนกเหล่านี้มาอาศัยอยู่ที่วิหารที่ประดิษฐานสังขารหลวงปู่แก้วแทน และมีตำนานความเชื่อว่า วันที่นกเข้ามาอาศัยอยู่ในพระอุโบสถครั้งแรก ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่พอดี ปัจจุบันทางวัดจะเก็บรังนกนี้ต่อเมื่อไม่มีนกอาศัยอยู่ในรังแล้วเท่านั้น เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือสังคมและมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ยากจน นอกจากนี้ยังกลายเป็นต้นแบบคอนโดนกนางแอ่นเพื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชาวชุมชนละแวกวัดช่องลมด้วย
 
 

วัดเกตุมดีศรีวราราม ร่วมบุญสร้างพระบรมธาตุเกตุมวดีย์แก้วมรกต

image ext
image ext
  • วัดเกตุมดีศรีวราราม ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร  โทร. 086-9353456 | แผนที่วัดเกตุมฯ  | facebook

วัดเกตุมดีศรีวราราม ตั้งอยู่ติดกับถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกเลย เรียกได้ว่าเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล ด้วยความสูงเด่นเป็นสง่าพระบรมธาตุเกตุมวดีย์ ที่ว่ากันว่า ได้เคยสำแดงพุทธานุภาพให้ผู้มาแสวงบุญได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง แตกต่างกันไปตามแต่ประสบการณ์ของผู้พบเห็น เช่น มีคนได้ยินเสียงมโหรีออกจากพระธาตุบ้าง เสียงสวดมนต์จากพระหลาย ๆ องค์บ้าง บางครั้งก็มีผู้พบเห็นแสงสว่างออกมา
 
วัดนี้พระอุโบสถที่มีลักษณะคล้ายเรือนทรงไทย สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 56 เมตร ยาว 106 เมตร ซึ่งถือได้ว่ามีขนาดกว้างใหญ่ ภายในตกแต่งอย่างสวยงาม
 
ด้านหน้าของพระอุโบสถ มีการสร้างรูปปั้นพระเกจิอาจารย์ และพระพุทธรูปต่าง ๆ ให้เคารพบูชา
ถัดไปอีก ในบริเวณใกล้ทางเข้าพระบรมธาตุเจดีย์ยัง มีรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ องค์ใหญ่ที่สุดในสมุทรสาคร มีความสูงกว่า 5 เมตร และมีพื้นที่ให้ลอดตะบองของท่านเพื่อสะเดาะห์เคราะห์ เสริมดวงด้วยครับ ว่ากันว่าผู้ที่บูชาท้าวเวสสุวรรณนั้น จะทำให้มีอำนาจวาสนา และขจัดสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ
 
นอกจากนั้น ภายในวัดยังมีรูปปั้นองค์ท้าววิรุฬหก องค์ท้าวธตรฐ องค์ท้าววิรูปักษ์ ช้าง และ ราชสีห์ ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้ดูยิ่งใหญ่อลังการเลยครับ
 
 

วัดกาหลง หลวงปู่แดง-หลวงปู่สุด

image ext
image ext
  • วัดกาหลง  เลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ทางหลวงชนบท สค.2028 ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000  | แผนที่วัดกาหลง | facebook
  • งานประจำปีปิดทอง หลวงปู่แดง-หลวงปู่สุด วัดกาหลง 7-8-9 เมษายน พ.ศ. 2567

วัดกาหลง เป็นวัดที่ไม่ได้ใหญ่โต มีพื้นที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตามากนัก แต่เปี่ยมด้วยความศรัทธาของผู้คนจากทั้งชาวบ้านกาหลงเอง ชาวบ้านระแวกใกล้เคียง และทั่วประเทศ ที่มีต่อองค์หลวงปู่สุด พระเกจิผู้มีชื่อเสียงในด้านวัตถุมงคลอีกท่านในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า วัดนี้มีตำนานที่น่าสนใจมากจริง ๆ ทั้งตำนานขององค์หลวงปู่สุดเอง ตำนานการกำเนิดบ้านกาหลง และตำนานการตั้งวัด ซึ่งในโพสต์นี้จะขอเล่าแค่คร่าว ๆ พอนะครับ
 
ย้อนกลับไปในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ในเวลานั้นที่คลองบ่อมีสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งหาเลี้ยงชีพด้วยการตัดไม้ตะบูนขาว ตะบูนดำ และไม้เบญจพรรณอื่น ๆ ขาย แต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่ทั้ง 2 กำลังออกไปตัดไม้ตามปกติก็เห็นนกกา หรืออีกามันบินไปมาระหว่างต้นไม้ 2 ต้น พร้อมส่งเสียงร้อง ทั้งคู่เลยไปดู แล้วก็พบเด็กทารกเพศหญิง ถูกห่อด้วยผ้าห่ม ทั้งคู่จึงนำเด็กมาตามหาหาพ่อแม่ของเด็ก ซึ่งก็ไม่มีใครทราบ ทั้งคู่จึงตัดสินใจรับเลี้ยงและดูแลเอง โดยตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า "กาหลง"

ครั้นเด็กหญิงกาหลงพอเติบโตขึ้นมาผิวดำเหมือนนกกาเป็นที่ประหลาดใจ จึงทำให้กลายเป็นที่มาของชื่อ "บ้านกาหลง"
 
ครั้นนางกาหลงเติบโตขึ้น จึงร่วมกับชาวบ้านกาหลงจัดสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นในพื้นดินของตนเอง โดยสำนักสงฆ์แห่งนี้คือ "วัดกาหลง"
 
ต่อมาพระภิกษุรูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมา ชื่อของท่านคือ หลวงปู่สุด สิริธโร เมื่อชาวบ้านพบท่านก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงได้รวมตัวกันนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เลย
และด้วยบุญาบารมีของหลวงปู่สุด นั่นเอง ที่ทำให้วัดแห่งนี้ได้พัฒนาจนเจริญรุ่งเรือง เป็นที่นับถือจนถึงทุกวันนี้
 
ภายในวัดมีจุดน่าสนใจหลายอย่าง เช่น
- รูปหล่อหลวงปู่สุด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานหน้ามณฑป
- สังขารหลวงปู่สุดที่เผาไม่ไหม้ ซึ่งเปิดให้สักการะบูชาบนศาลากลางเปรียญ
- ตุ๊กตาเม็ดไม้ จำลองวิถีชีวิตการทำนาเกลือ
- พระพุทธรูปนาม "หลวงปู่แดง" ซึ่งอัญเชิญมาจากวัดร้างในเขตกรุงเก่าอยุธยา และรูปหล่อหลวงปู่สุด
 
ในละแวกใกล้กันยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายอย่างด้วย เช่น นาเกลือบ้านกาหลง จุดชมวิวทะเลสะพานสายรุ้ง สะพานสีลูกกวาด และพื้นที่ป่าชายเลนบ้านกาหลง
 
 

New stories

all : eat | fun | travel | cannabis

Latest view

มีเรื่องอยากเล่า มีร้านอยากอวด มีกิจกรรมเด็ดๆ อยากโปรโมทเชิญชวน ส่งเรื่อง/ภาพมาที่ eatfuntravel.com@gmail.com